LIFE STYLE
มีความสุขทุกจังหวะชีวิต
สัมผัสสีสันแห่งการอยู่อาศัยกับ ‘บ้านธาราคีรี 2’

เทรนด์เรื่องบ้านในปี 2568 ที่มัดใจคนรุ่นใหม่ ใคร ๆ ก็อยากซื้อบ้าน

11 ธันวาคม 2567

เทรนด์เรื่องบ้านในปี 2568 ที่มัดใจคนรุ่นใหม่ ใคร ๆ ก็อยากซื้อบ้าน



เทรนด์เรื่องบ้านในปี 2568 ที่มัดใจคนรุ่นใหม่ กับ 9 เหตุผลที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ใคร ๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง

การตัดสินใจซื้อบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตที่มาพร้อมกับการวางแผนและการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ มากมาย ในปี พ.ศ. 2568 โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่การอยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงแค่การมีหลังคาคุ้มกันแดดฝน แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ค่านิยมที่ลึกซึ้ง และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น เทรนด์ของที่อยู่ในปีนี้ ถูกหล่อหลอมขึ้นจากหลากหลายปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้ง ความเปลี่ยนแปลงของสถาพแวดล้อมโลก และความต้องการในรูปแบบการใช้ชีวิตเปี่ยมด้วยความสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่

ทุกองค์ประกอบเหล่านี้หลอมรวมกันเพื่อสร้างค่านิยมใหม่ของคำว่า  “บ้าน ที่ไม่เพียงแต่เป็นที่พักพิง แต่ยังเป็นศูนย์กลางของแรงบันดาลใจและการใช้ชีวิจอย่างยั่งยืน”


  1. บ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน

ในยุคที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้น หรือทรัพยากรธรรมชาติที่ลดน้อยลง แนวคิดเรื่อง "บ้านสีเขียว" ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบที่อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคต คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีบทบาทในการลดผลกระทบต่อโลก โดยเลือกบ้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล


  • แผงโซลาร์เซลล์ กลายเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของบ้านยุคใหม่ เพราะช่วยลดค่าไฟฟ้าและใช้พลังงานหมุนเวียน

  • วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างถูกเลือกให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้จากป่าปลูก หรือคอนกรีตรีไซเคิล

  • บ้านที่ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียว เช่น สวนแนวตั้ง หรือสวนดาดฟ้า เพื่อเพิ่มออกซิเจนและช่วยลดอุณหภูมิ

บ้านที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างการอยู่อาศัยและการดูแลโลก จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน


  1. เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) นิยามใหม่ของความสะดวกสบายในทุกมิติ

ยุคที่ Internet of Things (IoT) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน บ้านในปี พ.ศ. 2568 กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดสู่การเป็น บ้านอัจฉริยะ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ได้เพียงมอบความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน


  • ระบบควบคุมอัตโนมัติ เช่น การตั้งค่าการเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ หรือม่านหน้าต่างผ่านสมาร์ทโฟน

  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น กล้องวงจรปิดพร้อม AI วิเคราะห์ความผิดปกติ ช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนในทันทีเมื่อมีความเสี่ยงหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพิ่มความอุ่นใจให้กับเจ้าของบ้านตลอด 24 ชั่วโมง

  • การออกแบบบ้านให้รองรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ เช่น ลิฟต์ส่วนตัวในบ้าน หรือเซนเซอร์ตรวจจับการล้มการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัยจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในยุคปัจจุบัน


  1. บ้านสุขภาพดี นิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตในทุกด้าน

ในโลกหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงมุมมองและวิถีชีวิตของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ความสำคัญของสุขภาพทั้งกายและใจได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจหลักของการใช้ชีวิต บ้านในปี พ.ศ. 2568 จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรที่มีประสิทธฺภาพยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสถานที่ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตในทุกด้าน

  • ระบบ Air Filtration ที่ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 และลดการสะสมของเชื้อโรค

  • การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น สีน้ำปลอดสารเคมี (Low VOCs)

  • พื้นที่สำหรับออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สนามโยคะขนาดเล็ก หรือทางเดินรอบบ้าน


  1. บ้านที่เชื่อมต่อธรรมชาติ จากการออกแบบเพื่อเติมเต็มความสงบของจิตใจ

ผู้คนแสวงหาความสงบและความผ่อนคลายจากความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน Biophilic Design หรือการออกแบบที่ผสานธรรมชาติเข้ากับที่อยู่อาศัย กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง บ้านยุคใหม่จึงเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมผ่านองค์ประกอบหลากหลาย


  • การใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือดินเผา ไม่เพียงช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น แต่ยังนำความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติมาสู่พื้นที่อยู่อาศัย

  • การออกแบบ แสงธรรมชาติ ให้เข้าถึงทุกมุมของตัวบ้าน ช่วยเพิ่มความสว่างสดใส ลดการใช้พลังงาน และสร้างบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง

  • การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เช่น การปลูกต้นไม้ในอาคาร หรือจัดสวนแนวตั้งที่ช่วยฟอกอากาศและเติมความสดชื่นให้กับทุกมิติของชีวิต

บ้านที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติไม่เพียงสร้างความสวยงาม แต่ยังมอบความสงบสุขและผ่อนคลาย ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสถึงความสุขที่แท้จริงในทุกวัน


  1. บ้านเพื่อการทำงาน (Work From Home) ด้วยการออกแบบพื้นที่รองรับการทำงานยุคใหม่

ปัจจุบันการทำงานจากบ้านกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวัน บ้านในปี พ.ศ. 2568 จึงได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการในการทำงานจากที่บ้านอย่างเต็มรูปแบบ โดยเน้นสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ


  • ห้องทำงานเฉพาะกิจ ที่แยกออกจากพื้นที่ส่วนตัว ช่วยให้สามารถสร้างความเป็นระเบียบและแยกความรับผิดชอบระหว่างชีวิตส่วนตัวและงานได้อย่างชัดเจน

  • การออกแบบพื้นที่ทำงานที่ช่วยเพิ่มสมาธิ เช่น ผนังกันเสียง เพื่อสร้างความเงียบสงบ หรือ โต๊ะทำงานติดหน้าต่าง ที่ให้แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง

  • การติดตั้ง ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บนพื้นที่ที่เครือข่ายเชื่อมต่ออย่างเสถียร เพื่อรองรับการประชุมออนไลน์และการทำงานที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและไม่มีสะดุด

บ้านที่พร้อมสำหรับการทำงานจากที่บ้านไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคใหม่ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานและความสุขในชีวิตประจำวัน


  1. บ้านยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

บ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความต้องการจึงกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง บ้านที่มีพื้นที่ปรับเปลี่ยนได้ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับตัวและตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ


  • ห้องเอนกประสงค์ ที่สามารถเปลี่ยนจากห้องเปล่า ๆ กลายเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องปาร์ตี้ หรือห้องเลี้ยงเด็กสำหรับผู้ที่วางแผนสร้างครอบครัวในอนาคต ซึ่งช่วยให้บ้านตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายแบบในแต่ละช่วงเวลา

  • การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในแนวดิ่ง เช่น การสร้างชั้นลอย หรือ ห้องใต้หลังคา เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากขึ้นโดยไม่ต้องขยายขอบเขตของบ้าน

  • การออกแบบบ้านที่รองรับ การต่อเติมในอนาคต เช่น การเพิ่มห้องพัก หรือการสร้างอาคารเสริม เพื่อให้บ้านสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตได้อย่างยืดหยุ่น

บ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้จึงไม่เพียงแต่เป็นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า แต่ยังสะท้อนถึงการออกแบบที่ทันสมัยและพร้อมรองรับทุกการเปลี่ยนแปลงของชีวิต


  1. บ้านในทำเลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ใช่รอบด้าน

การเลือกทำเลสำหรับบ้านยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในทุกด้าน ทั้งในแง่ของการเชื่อมต่อกับชีวิตเมืองและความใกล้ชิดกับธรรมชาติ


  • ย่านธุรกิจหรือแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ เช่น คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือห้างสรรพสินค้า ที่สามารถให้ทั้งความสะดวกและความบันเทิงตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งหรือการพบปะสังสรรค์

  • แหล่งธรรมชาติ เช่น ชานเมืองที่อยู่ใกล้ภูเขาหรือแม่น้ำ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง ช่วยเติมเต็มความสงบและสร้างความสดชื่นในชีวิตประจำวัน

  • ระบบขนส่งสาธารณะ ที่เชื่อมต่ออย่างสะดวก เช่น สถานีรถไฟฟ้าหรือทางด่วน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและประหยัดเวลาในการใช้ชีวิตให้มากยิ่งขึ้น

การเลือกบ้านในทำเลที่มีคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และการเข้าถึงแหล่งความบันเทิงในชีวิตประจำวัน


  1. การลงทุนในบ้านเพื่อ Passive Income สร้างรายได้จากทรัพย์สินที่อยู่อาศัย

ในปี พ.ศ. 2568 บ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (Passive Income) ผ่านหลายช่องทาง โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

  • การปล่อยเช่าบ้าน ในทำเลที่มีความต้องการสูง เช่น ย่านธุรกิจหรือแหล่งท่องเที่ยว ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถสร้างรายได้ประจำจากการเช่าหรือห้องพักที่สะดวกสบายและปลอดภัย

  • การปรับพื้นที่บางส่วนของบ้านให้เป็น ร้านกาแฟขนาดเล็ก หรือ ร้านค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและสร้างรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

  • บ้านพักตากอากาศ ที่สามารถนำมาทำเป็น AirBnB ในช่วงที่เจ้าของบ้านไม่ได้ใช้งาน ช่วยให้สามารถรับรายได้จากนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มองหาที่พักในระยะสั้น

การลงทุนในบ้านเพื่อสร้าง Passive Income จึงไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน แต่ยังเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว


  1. บ้านที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวท่ามกลางความเงียบ

ยุคที่สังคมออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วและการเชื่อมต่อกับผู้อื่นกลายเป็นเรื่องปกติ การรักษาความเป็นส่วนตัวจึงกลายเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น บ้านในปี 2568 จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ โดยเน้นการสร้างความสงบและพื้นที่ส่วนตัวในทุกมิติของการใช้ชีวิต


  • รั้วต้นไม้หรือกำแพง ที่ช่วยป้องกันและเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากสายตาคนภายนอก ไม่เพียงแต่สร้างความปลอดภัย แต่ยังทำให้พื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านรู้สึกสงบและเป็นมิตรกับธรรมชาติ

  • พื้นที่ส่วนตัวกลางแจ้ง เช่น ลานหลังบ้านที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ถูกรบกวน

การออกแบบบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวเช่นนี้ จึงไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการอยู่อาศัย แต่ยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบและผ่อนคลายในทุกวัน

การตัดสินใจซื้อบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่การหาที่อยู่อาศัย แต่ยังเกี่ยวข้องกับการวางแผนทางการเงิน การสร้างความมั่นคง และการตอบสนองความต้องการของครอบครัวในทุกช่วงวัย คนที่เลือกซื้อบ้านมักมองเห็นถึง อนาคต ที่จะเติบโตไปพร้อมกับบ้านที่เป็นเจ้าของ รวมถึงความสามารถในการลงทุนและสร้างทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว

แต่ละคนมีเหตุผลแตกต่างกันในการซื้อบ้าน บางคนต้องการความมั่นคง บางคนต้องการพื้นที่ส่วนตัว หรือบางคนอาจมองหาการลงทุนระยะยาว ที่สามารถสร้างรายได้ในอนาคต ดังนั้นการเลือกซื้อบ้านจึงเป็นการตัดสินใจที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าในอนาคต


สามารถนัดหมายเพื่อ Walk-In เข้ามาชมบรรยากาศจริงของโครงการและสัมผัสบรรยากาศของบ้านด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้

 โครงการบ้านธาราคีรี 2 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230
 ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
 Facebook : m.me/baantarakeree2
 Line : https://lin.ee/5onYE22
 Website : https://www.baantarakeree.com/
 หรือโทร 081-5300104
เลือกความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุด… เลือกอยู่ ‘บ้านธาราคีรี 2’
RECOMMEND ARTICLES
RELATED ARTICLES
ติดตามบทความ
และเรื่องราวดีๆ
เพียงกรอกอีเมลของคุณ เราจะส่งมอบเรื่องราวดีๆ ให้คุณทุกเดือน
การกดปุ่มสมัครรับบทความถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัวข้อกำหนดและเงื่อนไข ของบ้านธาราคีรี2